You say love without saying it
เขาจริงจัง และตั้งใจที่จะดูแลกันอย่างดี
ผู้เข้าชมรวม
352
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
You say love without
saying it
__
“มาแล้วทำไมไม่ให้คนไปบอกเนี่ย”
ถ้อยคำที่ดังขึ้นข้างตัวชวนให้รู้สึกถึงอารมณ์ของผู้พูดในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่สักพักจะค่อยๆได้ยินเสียงราวกับว่าผู้พูดคนนั้นกำลังหย่อนก้นลงนั่งตรงพื้นที่ว่างบนโซฟานุ่มตัวเดียวกัน
เสียงดนตรีคลอเบาๆลอยมาพร้อมกับลมเย็นๆที่คาดว่าคงจะมาจากพัดลมตัวใหญ่สักตัว
ผมรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้น ก่อนที่พวกมันจะถูกลืมเลือนไปหมดเมื่อคนที่นั่งข้างกันค่อยๆเลื่อนมือมากอบกุมมือข้างหนึ่งของตัวเองเอาไว้
“ร้อนไหม เพื่อนเรามันแกล้งอะไรมาหรือเปล่า”
“เขาจะแกล้งอะไรได้”
“ไอ้พวกนั้น
เราให้ไปรับมาจากโรงพยาบาล มันไม่ได้พาไปเถลไถลที่ไหนใช่ไหม”
“ขอร้องเถอะ
กูไปรับไปส่งมันแทนมึงกี่รอบแล้ว”
ผมหัวเราะออกมาแผ่วเบา
ได้ยินเสียงคนข้างตัวเถียงทะเลาะกับใครอีกคนที่ยังคงอยู่ภายในห้องนี้
บรรยากาศรอบกายดูจะผ่อนคลายเหมาะแก่การทำงานอย่างที่คาดคิดเอาไว้ไม่มีผิด
ผมเลื่อนมือไปซ้อนทับมือนุ่มๆข้างนั้นเอาไว้
ก่อนจะลูบมันไปมาเบาๆ
มือข้างนี้ ผมลูบมันมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่แม้ว่าจะอยู่กับมันมานาน
ผมกลับไม่เคยรู้เลย ว่าหน้าตาของเจ้าของมือนั้นเป็นเช่นไร
ดวงตาทั้งสองข้างในตอนนี้
แม้จะมีแต่ก็ไร้ประโยชน์เสียเหลือเกินเมื่อไม่อาจจะใช้การอะไรได้อีก
แน่นอนว่าความโชคร้ายมันไม่เข้าใครออกใคร ครั้งสุดท้ายที่ยังสามารถมองเห็นโลกทั้งใบ
มองเห็นสี มองเห็นภาพวาดจากฝีมือของตัวเอง มันก็นานมากๆ
นานจนเหมือนจะลืมวิธีการมองเห็นอะไรพวกนั้นไปเสียแล้ว
เคยเป็นคนปกติเหมือนกัน
เคยมีตาทั้งสองข้างที่มองทุกสิ่งทุกอย่างได้รอบกาย กระทั่งประสบอุบัติเหตุ
ถึงได้สูญเสียความมหัศจรรย์ที่พ่อกับแม่ได้ให้มาไปพร้อมกันกับรถยนต์คู่ใจ
สามปีที่ทนอยู่อย่างนี้
และสามปีที่ได้จับมือเขา
จุดเริ่มต้นในการพบเจอช่างเป็นอะไรที่ธรรมดามากๆ
ธรรมดาจนผมไม่รู้เลยว่าโลกใบนี้จะผลักใครสักคนเข้ามาในชีวิตของผมได้ง่ายดายมากถึงขั้นนี้เลยหรืออย่างไรกัน
“ทางนี้ครับ”
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ระวังนะ”
บทสนทนาระหว่างเราเกิดขึ้นเพียงเท่านั้น
ก่อนที่มันจะค่อยๆมากขึ้น และมากขึ้น
เมื่อผมได้ยินเสียงของเขาอีกครั้งที่บ้านของตนเอง ความทรงจำในคืนนั้นยังคงเด่นชัดราวกับมันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ด้วยซ้ำ
นึกย้อนกลับไปแล้วก็ยังค่อนข้างงุนงงกับจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์พวกเรา
เขาเป็นแฟนเก่าของหมอคนแรกๆที่เคยรักษาผมล่ะ
ผมยังจำได้ วันที่เขามานั่งข้างๆกัน
ร้องไห้ แล้วก็ยืมทิชชู่ในกระเป๋าไปเช็ดน้ำตา เสียงสูดน้ำมูกยังคงดังอยู่อย่างนั้น
นึกย้อนกลับไปทีไรก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาต้องคิดยังไงถึงมานั่งปรับทุกข์กับชายตาบอดสักคนแบบนั้น
ผมไม่ได้พยายามอะไรที่จะได้พบเจอเขาเลย
เพราะแบบนี้ ถึงได้กล้าพูดว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราทั้งคู่น่ะมันช่างเรียบง่ายเหลือเกิน
“วันนี้ใส่ชุดแบบนี้”
เสียงของคนที่ยังนั่งอยู่ข้างตัวดังขึ้นอีกครั้ง
ในยามที่เขาค่อยๆจับประคองมือทั้งสองข้างให้ไปวางบนเนื้อตัวของเขา
สัมผัสแปลกประหลาดของเนื้อผ้าชวนให้รู้สึกชะงักเล็กน้อย แต่ไม่กี่วินาทีก็ค่อยๆวางมือลง
แล้วจับมันไปมาเบาๆ
เขารับงานถ่ายแบบ เป็นนายแบบ ถ่ายทั้งโฆษณาสารพัด
ถ่ายทั้งร้านค้าเสื้อผ้าออนไลน์ของตัวเองและเพื่อนที่ร่วมลงทุนกัน ดังเช่นวันนี้
เขาก็มาถ่ายงานเพื่อลงโฆษณาตามช่องทางต่างๆ เพราะติดธุระ จึงไม่อาจจะว่างไปรับผมที่โรงพยาบาลเฉกเช่นปกติ
สุดท้ายเลยต้องวานให้เพื่อนของตัวเองไปรับไปส่งแทนแบบนี้
ผมอยากเห็นหน้าเขา
อยากเห็นเสื้อผ้าของเขา
อยากรู้ว่าเขาใส่เสื้อผ้าสีอะไร
มีเส้นผมสีอะไร ดวงตาสีอะไร
อยากรู้เหลือเกินว่ารอยยิ้มของเขามันจะสวยงามขนาดไหน
“วันนี้ใส่เสื้อสีฟ้า ตรงนี้เป็นแถบสีขาว
แล้วก็ตรงนี้มีปักสติกเกอร์เป็นรูปดอกกุหลาบด้วยนะ”
เขาพูดอย่างตื่นเต้น
ก่อนที่จะเลื่อนมือข้างนั้นของผมขึ้นไปไล่สัมผัสตามจุดต่างๆ
ผมทำได้เพียงยิ้มบางตอบรับ ยิ่งได้ยินเสียงสดใสของเขา ก็ยิ่งนึกเอาเองในหัวว่าเขาในวันนี้คงจะดูดีมากๆแน่นอน
ทั้งๆที่ความจริง ผมจินตนาการถึงสีฟ้าไม่ได้เลย
ผมเกือบจะลืมรูปร่างของดอกกุหลาบไปหมดแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่านาทีนี้ตัวเองจะทำหน้าแบบไหนออกไป
มือนุ่มๆข้างนั้นถึงได้ค่อยบีบกระชับมือ คล้ายกับต้องการจะปลอบประโลมกัน กระทั่งเสียงรอบกายเงียบไป
สัมผัสอุ่นละมุนบางอย่างก็เกิดขึ้นที่ข้างแก้มของตัวเอง มันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
แต่เป็นเสี้ยววินาทีที่จู่ๆภาพของสีฟ้าก็ฉายชัด
เป็นเสี้ยววินาทีที่ดอกกุหลาบกลับเข้ามาในความทรงจำ
ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาวะปกติดังเดิม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ littleskyofme2 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ littleskyofme2
ความคิดเห็น